เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวของคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศกำลังบูมมมม.ม.ม.ม.มสุดๆ หลายคนไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปชมดอกซากุระ ไปปีนภูเขาไฟฟูจิ หลายคนแบกเป้แบกถุงนอนขึ้นไปกางเต้นท์ดูทะเลหมอกบนภูเขา บางคนตุเลงๆ แบกห่วงยาง จานชาม เสื่อ จูงลูกจูงหลานไปทะเล และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณเป็นคนชอบท่องเที่ยว อยากรู้มั๊ย! ว่าสไตล์การท่องเที่ยวในแบบของคุณ จัดอยู่ในกลุ่มไหนระหว่าง “Traveller” กับ “Tourist”
สิ่งแตกต่างระหว่าง Tourist กับ Traveller
1. “There are no foreign lands. It is the traveler only who is foreign.”
(Robert Louis Stevenson)
ไม่มีดินแดนแห่งใดบนโลกใบนี้ที่แปลกถิ่น จะมีก็แต่เพียงนักเดินทาง
ผู้ไปเยือนเท่านั้นที่ถือเป็นสิ่งแปลกปลอม”
2. “No one realizes how beautiful it is to travel until he comes home
and rests his head on his old, familiar pillow.” (Lin Yutang)
“ไม่มีใครหรอกที่จะซาบซึ้งถึงความสวยงามของการเดินทาง
จนกว่าจะได้กลับมายังบ้าน และวางศรีษะลงบนหมอนใบเก่าที่คุณคุ้นเคย”
3. “A good traveler has no fixed plans and is not intent on arriving.”
(Lao Tzu)
“นักเดินทางที่ดีย่อมไม่มีแผนการเดินทางที่แน่นอนตายตัว
และไม่ได้เผื่อไว้สำหรับสิ่งใดๆที่จะพบเมื่อไปถึง”
4. “One’s destination is never a place, but a new way of seeing things.”
(Henry Miller)
“จุดมุ่งหมายของการเดินทาง ไม่ได้อยู่ที่สถานที่ที่เราจะไป
หากแต่เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ให้เราได้ออกไปเห็นสิ่งต่างๆมากกว่าที่เคย”
5. “The use of traveling is to regulate imagination by reality and instead
of thinking how things may be, to see them as they are.” (Samuel Johnson)
“คุณประโยชน์ของการเดินทาง คือการได้สร้างจินตนาการด้วยความจริง
และแทนที่จะต้องนึกเอาว่าสิ่งต่างๆจะเป็นอย่างไร คุณได้เห็นมันในแบบที่เป็นจริงๆ”
6. “Tourists don’t know where they’ve been,
travelers don’t know where they’re going.” (Paul Theroux)
“นักท่องเที่ยว …จะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
แต่นักเดินทาง …จะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน”
7. “The world is a book and those who do not travel read only one page.”
(St. Augustine)
“หากโลกนี้เปรียบเสมือนหนังสือ ใครที่ไม่เคยเดินทางไปไหนเลย
ก็เปรียบเสมือนกับเพิ่งเปิดอ่านไปได้แค่หน้าเดียว”
ขอบคุณเครดิตภาพจาก : holidify.com และ Twitter.com
